Bucklee Bell พาทัวร์โลกแห่งสีสัน "Colorfully Yours"
ในค่ำคืน Christmas โลกแห่งสีสันที่สร้างขึ้นโดย คุณ Bucklee Bell เขาได้เนรมิตร้านอาหาร mARTinis restaurant Chiang Mai เป็นประตูมิติสู่โลกที่เขาสร้างขึ้นมา เพื่อให้นักผจญภัยได้เข้าไปสำรวจโลกหลากยุคหลากสมัย ท่ามกลางบรรยากาศการดื่มกินเฉลิมฉลองในค่ำคืนศักดิ์สิทธิ์นี้
เมื่อเข้าไปก็พบกับพี่โจจาก The Meeting Room Art Gallery ที่มาร่วมจัดงานครั้งนี้และรอต้อนรับ เพื่อนำทางไปสู่จินตนาการของศิลปิน หลังจากพี่โจส่งผู้เขียนถึงที่หมายก็ได้พบกับ หมวกจากหลายยุคหลายที่มา ไม่ว่าจะเป็น หมวกนักรบของไทย หมวกเหล็กของคุณตำรวจใในสมัยก่อน หรือ Basic สุดคือ หมวกกันน็อก ซึ่งทั้งหมดถูกเติมแต่งด้วยมิติต่างๆ ที่รอเราเข้าไปเยี่ยมเยือน
ถือว่าเป็นอีกงาน ที่ผู้เขียนจะต้องงัดภาษามือ และ อังกฤษแบบ งูๆ ปลาๆ มาใช้กับศิลปินชาวต่างชาติอย่างคุณ Bucklee Bell (ฉันบอกตัวเองหลายรอบแล้วว่า ให้เรียนภาษาอังกฤษเก่งๆ ซิ ฮ่าๆๆ) ก็ได้เข้ามาทักทาย แลกเปลี่ยนช่องทางการเสพผลงานกันและกันอย่างอบอุ่น เมื่อหันไปทางข้างกำแพงก็พบกับแนวงานที่เขาเรียกว่า "POP Realism"
โดยผลงานข้างผนังนี้ จะนำพาเราไปในโลกอดีตอันเก่าแก่ และ ช่วงศตวรรษที่ 20 โดยอ้างอิงจากรูปแบบการบันทึกของแต่ละอารยธรรม ทั้ง อียิปต์, มายา หรือ แม้แต่การจัดวางรูปแบบหนังสือการ์ตูน แต่เนื้อหาด้านในนั้นกับไม่ใช่การบอกเล่าถึงความยิ่งใหญ่ของตน หรือ คำทำนายสะท้านโลก แต่เป็นเพียงแคเรื่องราวง่ายๆ ที่เราเห็นกันจนชินตา แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป อารยธรรมใหม่ๆ จะเข้ามาแทนที่ ภาพชินตาของพวกเรา สักวันมันก็ต้องเป็นอดีตที่เราอยากย้อนรำลึกเพื่อคิดถึงมัน ก็เป็นได้
หลังจากผู้เขียนและเพื่อนร่วมเดินทางชมผลงานกันไปได้สักพัก คุณ Bucklee Bell ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมแนะนำผลงานชิ้นเอกที่เขาภาคภูมิใจที่สุด นั้นคือ ครอบครัวที่เขาได้สร้างขึ้น และพวกเขาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ในวันสำคัญแบบนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่ศิลปินคงมิอาจลืมเลือน แม้จะบันทึกเรื่องราวลงไปให้ละเอียดมากเพียงใด ก็คงไม่ลึกซึ้งเท่ากับ การได้สัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นด้วยตัวเอง แต่อย่างน้อย การบันทึกและปริศนาบนภาพ ก็อาจทำให้เราได้ฉุกคิดถึงเหตุการณ์สำคัญเหล่านั้นได้อีกครั้ง
นับเป็นความภูมิใจอย่างมากสำหรับผู้เขียน ที่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญและบันทึกภาพพวกเขา และทำให้ตนเองนั้นนึกย้อนไปอีกว่า ตลอดปี 2020 ที่กำลังจะผ่านไป ผู้เขียนได้รับอะไรมากมายจากการอุทิศตน เพื่อพยายามบันทึกผลงานศิลปะให้มากที่สุด และไม่เคยคิดเสียใจเลยแม้แต่น้อยที่ได้ตัดสินใจแบกกล้องเก่าๆ ของตนเอง ออกไปตามหาศิลปินที่กำลังเป็นดาวเด่นขึ้นสักวัน ก็หวังว่า ปีหน้าเราคงจะได้เจอกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน Marry Christmas และ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น